(TH) OECD คาดการณ์การขึ้นภาษีของโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งผลต่อการเติบโตที่ลดน้อยลงของเศรษฐกิจของแคนาดาและเม็กซิโก

ข่าวต่างประเทศ 31 Mar 2025

โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐฯ ได้ประกาศกำหนดภาษีของเหล็กและอลูมิเนียมที่ร้อยละ ๒๕ และภาษีนำเข้าสินค้าอื่นๆ จากเม็กซิโกและแคนาดาร้อยละ ๒๕ โดยมีข้อยกเว้นในบางประการ และภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนร้อยละ ๒๐ ซึ่งการกำหนดอัตราภาษีดังกล่าวคาดว่าจะทำให้แคนาดาและเม็กซิโกนั้นได้รับผลกระทบอย่างมากที่สุด เนื่องจากทั้งสองประเทศมีการจัดเก็บภาษีศุลกากรที่รุนแรงที่สุด ซึ่งการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ก็คาดว่าจะได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ ยังส่งผลกระทบถึงการเติบโตของเศรษฐกิจทั่วโลกและทำให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นอีกด้วย
องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ หรือ OECD คาดการณ์สถานการณ์ทางเศรษฐกิจว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของแคนาดานั้นจะลดไปมากกว่าครึ่งหนึ่งของปีนี้และในปีหน้า ในขณะที่เม็กซิโกจะเข้าสู่สภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ
ด้วยเหตุนี้ แคนาดาและสหภาพยุโรปจึงได้ออกมาตรการตอบโต้ทางภาษี (Retaliatory tariff) ต่อสถานการณ์ดังกล่าว
OECD ได้บ่งชี้ต่อไปว่า เหตุการณ์นี้จะก่อให้เกิดอุปสรรคการค้าที่สูงขึ้น และการเพิ่มขึ้นของความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์และนโยบายซึ่งส่งผลกระทบต่อการลงทุนและการใช้จ่ายในระดับครัวเรือน โดยมีการคาดการณ์เหตุการณ์ต่างๆ ไว้ ดังต่อไปนี้

เศรษฐกิจของแคนาดาคาดว่าจะเติบโตขึ้นเพียงร้อยละ ๐.๗ ในปีนี้และปีหน้า (ค.ศ.๒๐๒๖) โดยเปรียบเทียบจากการคาดการณ์ในครั้งก่อนว่าจะมีการเติบโตขึ้นร้อยละ ๒ ของทั้งสองปี

เศรษฐกิจของเม็กซิโกจะหดตัวลงร้อยละ ๑.๓ ในปีนี้และหดตัวลงอีกร้อยละ ๐.๖ ในปีหน้าแทนที่จะเติบโตขึ้นร้อยละ ๑.๒ และ ๑.๖ ตามการคาดการณ์ในครั้งก่อน
การเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะถดถอยด้วยการเติบโตเพียงร้อยละ ๒.๒ ในปีนี้และร้อยละ ๑.๖ ในปี ค.ศ.๒๐๒๖ ซึ่งลดน้อยลงจากการคาดการณ์ครั้งก่อนซึ่งอยู่ที่ร้อยละ ๒.๔ และร้อยละ ๒.๑
แม้ทางสหรัฐฯได้กำหนดอัตราภาษีนำเข้าจากจีน แต่ OECD ก็ได้คาดการณ์การเติบโตของประเทศนี้ว่าจะเติบโตขึ้นเพียงเล็กน้อยที่ร้อยละ ๔.๘

ภาพแสดงการคาดการณ์การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจโดย OECD

ทั้งนี้ OECD กล่าวต่อไปอีกว่า สงครามการค้าที่กำลังเกิดขึ้นนี้เป็นตัวผลักดันทำให้อัตราเงินเฟ้อสูงยิ่งขึ้น ซึ่งหมายความว่าอัตราดอกเบี้ยนั้นน่าจะคงสูงขึ้นอีกเป็นเวลานาน จึงเป็นข้อกังวลด้านความเสี่ยงที่สำคัญสำหรับการแตกตัวทางเศรษฐกิจโลก โดยการเพิ่มอุปสรรคทางการค้านั้นจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตทั่วโลกและเพิ่มภาวะเงินเฟ้อ
การเติบโตของเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวจากร้อยละ ๓.๒ ในปี ค.ศ. ๒๐๒๔ เหลือเพียงร้อยละ ๓.๑ ในปี ค.ศ. ๒๐๒๕ ซึ่งเป็นผลมาจากความตึงเครียดทางการค้าเป็นส่วนใหญ่
นอกจากนี้ ยังคาดการณ์ต่ออีกว่าอัตราเงินเฟ้อซึ่งก็คืออัตราการเพิ่มขึ้นของราคาจะยังคงชะลอตัวลง แม้ว่าจะไม่มากเท่าที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ โดยอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ร้อยละ ๓.๘ ในปีนี้ของ ๒๐ เศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของโลก เมื่อเทียบกับคาดการณ์ก่อนหน้าที่ร้อยละ ๓.๕
บริษัท Tesla ผู้ผลิตยานยนตร์ไฟฟ้าของ Elon Musk เตือนว่าบริษัทและผู้ส่งออกรายอื่นของสหรัฐฯ อาจได้รับผลกระทบจากสงครามการค้านี้ โดยในจดหมายถึงผู้แทนการค้าของสหรัฐฯ บริษัทระบุว่าผู้ส่งออกของสหรัฐฯอาจได้รับผลกระทบอย่างไม่ได้สัดส่วน หากประเทศอื่นๆ ได้ออกมาตรการตอบโต้ทางภาษีของโดนัล ทรัมป์
ทั้งนี้ OECD ปรับการคาดการณ์ของการเติบโตทางเศรษฐกิจของอังกฤษลดลงเหลือเพียงร้อยละ ๑.๔ ในปี ค.ศ.๒๐๒๕ จากการคาดการณ์ครั้งก่อนที่ร้อยละ ๑.๗ และในปี ค.ศ.๒๐๒๖ ลดลงเหลือร้อยละ ๑.๒ จากร้อยละ ๑.๓ อย่างไรก็ดี การคาดการณ์ดังกล่าวยังเกิดมุมมองในทางบวกมากกว่าการคาดการณ์ของธนาคารแห่งอังกฤษ ซึ่งคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของอังกฤษในปี ค.ศ.๒๐๒๕ ลดลงเหลือร้อยละ ๐.๗๕ เมื่อต้นเดือนมีนาคม ค.ศ.๒๐๒๕

ข่าวประจำวันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๖๘
แปลและเรียบเรียงจาก https://www.bbc.com/news/articles/c9wpq0g10xjo
*บทความในเว็บไซต์เป็นผลงานทางวิชาการของผู้เขียนเว็บไซต์ LawforASEAN / สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องด้วย