(TH) Apple ถูกฟ้องร้องจากกรณีที่ Apple Watch อ้างว่าเป็นสินค้าที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน
ข่าวต่างประเทศ 28 Feb 2025
เป็นที่ทราบกันดีว่า Apple บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ที่เป็นผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์โทรศัพท์อย่าง iPhone ได้เปิดตัวนาฬิกา Apple watch ในเดือนกันยายน ค.ศ. ๒๐๒๓ พร้อมกับระบุว่าสินค้าดังกล่าวมีความเป็นกลางทางคาร์บอน (carbon neutral) ผ่านโครงการการลดการปล่อยก๊าซและการซื้อการชดเชยคาร์บอน (Carbon offset) โดยบริษัทมีฐานตั้งอยู่ ณ คูเปอร์ติโน รัฐแคลิฟอร์เนีย
มีเป้าหมายเพื่อความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี ค.ศ.๒๐๓๐ ซึ่งหมายรวมถึงในห่วงโซ่อุปทาน (Supply chain) ของบริษัทด้วย
คดี Dib et al v Apple Inc เกิดขึ้นที่ศาลแขวงสหรัฐอเมริกาภายในเขตตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย หมายเลขคดี 25-02043 เป็นกรณีที่ Apple ถูกฟ้องร้องโดยผู้บริโภคด้วยข้อกล่าวหา
ที่ว่า Apple Watch สามรุ่นที่ปล่อยตัวออกมานั้นมีการกล่าวอ้างว่าเป็นสินค้าที่มีลักษณะเป็นกลางทางคาร์บอน (carbon neutral) และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมนั้นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด และทำให้เกิดความเข้าใจผิดขึ้น โดยโจทก์กล่าวอ้างว่า ผลิตภัณฑ์การชดเชยคาร์บอน (Carbon offset) จำนวน ๒ โครงการที่ Apple ได้มีการพึ่งพาเพื่อให้เกิดการบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซนั้นไม่ได้เกิดการลดคาร์บอนได้อย่างแท้จริง เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่ของโครงการ Chyulu Hills ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศเคนยาภายในเขตอุทยานแห่งชาตินั้นได้รับการคุ้มครองจากการทำลายป่าตั้งแต่ปี ค.ศ.๑๙๘๓ ในขณะที่พื้นที่สำหรับโครงการ Guinan ของจีนก็ยังถูกปกคลุมไปด้วยต้นไม้ต่าง ๆ ตั้งแต่ก่อนที่โครงการจะเริ่มในปี ค.ศ.๒๐๑๕
คำฟ้องของโจทก์ให้เหตุผลสนับสนุนว่า โครงการดังกล่าวได้เกิดขึ้นอยู่ก่อนแล้วไม่ได้ โดยไม่ขึ้นอยู่กับการมีส่วนร่วมใด ๆ ของ Apple เลยและการที่ Apple นั้นอ้างว่าความเป็นกลางทางคาร์บอนได้อาศัยประสิทธิภาพและความถูกต้องของโครงการเหล่านี้ จึงเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องและทำให้เกิดความเข้าใจผิดขึ้น อีกทั้งโจทก์ได้อ้างถึงผลการศึกษาจาก National Retail Federation และ IBM ว่า ร้อยละ ๗๐
ของผู้บริโภคภายในประเทศสหรัฐฯและแคนาดานั้นพิจารณาเรื่องความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ เมื่อต้องการซื้อสินค้าใด ๆ
ทั้งนี้ Apple ได้ออกมาตอบกลับว่า บริษัทฯ ได้มีการลดการปล่อยก๊าซสำหรับ Apple Watch อย่างมากเกินกว่าร้อยละ ๗๕ และมีกำลังลงทุนในโครงการที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติเพื่อกำจัดคาร์บอนหลายแสนเมตริกตันภายในอากาศ พร้อมทั้งมีรายละเอียดงานอย่างชัดเจนและโปร่งใสสำหรับผู้ใช้งานของบริษัทฯ
แม้ว่าการฟ้องร้องดังกล่าวไม่ได้มีระบุจำนวนค่าเสียหาย แต่มีคำขอให้ Apple ยุติการทำการตลาดว่า Apple watch ทั้งสามรุ่นนั้นเป็นสินค้าที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน
ผู้ซื้อจำนวน ๗ รายของ Apple Watch รุ่น Series 9 รุ่น SE และรุ่น Ultra 2 พร้อมป้ายสีเขียวบนสินค้ากล่าวว่า พวกเขาคงจะไม่ซื้อสมาร์ทวอชเหล่านี้หรืออาจจ่ายเงินจำนวนน้อยกว่านี้หากได้รับรู้
ถึงความจริงมาก่อน
ข่าวประจำวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘
แปลและเรียบเรียงจาก https://www.reuters.com/technology/apple-sued-over-carbon-neutral-claim-watches-2025-02-27/
*บทความในเว็บไซต์เป็นผลงานทางวิชาการของผู้เขียนเว็บไซต์ LawforASEAN / สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องด้วย
มีเป้าหมายเพื่อความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี ค.ศ.๒๐๓๐ ซึ่งหมายรวมถึงในห่วงโซ่อุปทาน (Supply chain) ของบริษัทด้วย
คดี Dib et al v Apple Inc เกิดขึ้นที่ศาลแขวงสหรัฐอเมริกาภายในเขตตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย หมายเลขคดี 25-02043 เป็นกรณีที่ Apple ถูกฟ้องร้องโดยผู้บริโภคด้วยข้อกล่าวหา
ที่ว่า Apple Watch สามรุ่นที่ปล่อยตัวออกมานั้นมีการกล่าวอ้างว่าเป็นสินค้าที่มีลักษณะเป็นกลางทางคาร์บอน (carbon neutral) และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมนั้นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด และทำให้เกิดความเข้าใจผิดขึ้น โดยโจทก์กล่าวอ้างว่า ผลิตภัณฑ์การชดเชยคาร์บอน (Carbon offset) จำนวน ๒ โครงการที่ Apple ได้มีการพึ่งพาเพื่อให้เกิดการบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซนั้นไม่ได้เกิดการลดคาร์บอนได้อย่างแท้จริง เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่ของโครงการ Chyulu Hills ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศเคนยาภายในเขตอุทยานแห่งชาตินั้นได้รับการคุ้มครองจากการทำลายป่าตั้งแต่ปี ค.ศ.๑๙๘๓ ในขณะที่พื้นที่สำหรับโครงการ Guinan ของจีนก็ยังถูกปกคลุมไปด้วยต้นไม้ต่าง ๆ ตั้งแต่ก่อนที่โครงการจะเริ่มในปี ค.ศ.๒๐๑๕
คำฟ้องของโจทก์ให้เหตุผลสนับสนุนว่า โครงการดังกล่าวได้เกิดขึ้นอยู่ก่อนแล้วไม่ได้ โดยไม่ขึ้นอยู่กับการมีส่วนร่วมใด ๆ ของ Apple เลยและการที่ Apple นั้นอ้างว่าความเป็นกลางทางคาร์บอนได้อาศัยประสิทธิภาพและความถูกต้องของโครงการเหล่านี้ จึงเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องและทำให้เกิดความเข้าใจผิดขึ้น อีกทั้งโจทก์ได้อ้างถึงผลการศึกษาจาก National Retail Federation และ IBM ว่า ร้อยละ ๗๐
ของผู้บริโภคภายในประเทศสหรัฐฯและแคนาดานั้นพิจารณาเรื่องความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ เมื่อต้องการซื้อสินค้าใด ๆ
ทั้งนี้ Apple ได้ออกมาตอบกลับว่า บริษัทฯ ได้มีการลดการปล่อยก๊าซสำหรับ Apple Watch อย่างมากเกินกว่าร้อยละ ๗๕ และมีกำลังลงทุนในโครงการที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติเพื่อกำจัดคาร์บอนหลายแสนเมตริกตันภายในอากาศ พร้อมทั้งมีรายละเอียดงานอย่างชัดเจนและโปร่งใสสำหรับผู้ใช้งานของบริษัทฯ
แม้ว่าการฟ้องร้องดังกล่าวไม่ได้มีระบุจำนวนค่าเสียหาย แต่มีคำขอให้ Apple ยุติการทำการตลาดว่า Apple watch ทั้งสามรุ่นนั้นเป็นสินค้าที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน
ผู้ซื้อจำนวน ๗ รายของ Apple Watch รุ่น Series 9 รุ่น SE และรุ่น Ultra 2 พร้อมป้ายสีเขียวบนสินค้ากล่าวว่า พวกเขาคงจะไม่ซื้อสมาร์ทวอชเหล่านี้หรืออาจจ่ายเงินจำนวนน้อยกว่านี้หากได้รับรู้
ถึงความจริงมาก่อน
ข่าวประจำวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘
แปลและเรียบเรียงจาก https://www.reuters.com/technology/apple-sued-over-carbon-neutral-claim-watches-2025-02-27/
*บทความในเว็บไซต์เป็นผลงานทางวิชาการของผู้เขียนเว็บไซต์ LawforASEAN / สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องด้วย
หน้าแรก
|
เกี่ยวกับเรา
|
แนะนำอาเซียน
|
ข่าวต่างประเทศ
|
ความตกลง
|
บทความ
|
งานวิจัย
|
กฎหมายน่ารู้
|
ติดต่อเรา
|
แผนผังเว็บไซต์
|
© 2025 Office of the Council of State.