[TH] อังกฤษเตรียมผ่านร่างกฎหมายควบคุมการก่อการร้าย หลังเกิดเหตุระเบิดของกลุ่มก่อการร้ายในคอนเสิร์ตของนักร้องชื่อดัง Ariana Grande
ข่าวต่างประเทศ 31 Mar 2025
รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยของอังกฤษ กล่าวว่า ร่างกฎหมายควบคุมการก่อการร้ายและการคุ้มครองสถานที่ต่าง ๆ (Terrorism (Protection of Premises) Bill) เป็นร่างกฎหมายที่เสนอต่อรัฐสภาอังกฤษ เพื่อส่งเสริมความปลอดภัยของสถานที่จัดงานและเพื่อรำลึกถึงเหยื่อจากเหตุระเบิดของกลุ่มก่อการร้ายที่ Manchester Arena
ซึ่งในการพิจารณาร่างกฎหมายในวาระที่ ๓ เมื่อวันอังคารที่ ๑๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๘ Lord Hanson สมาชิกรัฐสภาพรรคแรงงานของอังกฤษ กล่าวต่อรัฐสภาว่า ร่างกฎหมายควบคุมการก่อการร้ายและการคุ้มครองสถานที่ต่าง ๆ (Terrorism (Protection of Premises) Bill) จะช่วยปกป้องชีวิตของผู้คนได้ ในขณะที่กฎหมายผ่านการเห็นชอบจากสภาขุนนาง และจะส่งกลับไปยังรัฐสภาเพื่อให้สมาชิกรัฐสภาพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมต่อไป
นอกจากนี้ Lord Hanson กล่าวว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้เป็นการระลึกถึงผู้เป็นเหยื่อจากเหตุสลดเหล่านั้น รวมถึงเหยื่อจากเหตุการณ์การก่อการร้ายอื่น ๆ และพวกเขาจะไม่มีวันถูกลืม และเขากล่าวเสริมว่า หากไม่มีการรณรงค์ของ Figen Murray และทีมงานของเธอ คงไม่อาจมีการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างในวันนี้ได้
โดยการเปลี่ยนแปลงทางกฎหมายนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ Figen Murray ได้ทำการรณรงค์ หลังจากเหตุการณ์เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ ที่ลูกชายของเขา Martyn Hett ตกเป็นหนึ่งในเหยื่อผู้เสียชีวิต ๒๒ รายจากเหตุระเบิดในคอนเสิร์ตของนักร้องดัง Ariana Grande
ภายใต้กฎหมายฉบับนี้หรือที่เรียกอีกชื่อว่า Martyn's Law เจ้าหน้าที่ของสถานที่จัดงานในสหราชอาณาจักรที่มีความจุมากกว่า ๒๐๐ คนทุกแห่ง จะต้องได้รับการฝึกอบรมการอพยพ และในสถานที่จัดงานที่จุคนได้มากกว่า ๘๐๐ คนจะต้องมีการใช้มาตรการอื่นเพิ่มเติม เช่น การติดตั้งกล้องวงจรปิด หรือจัดหาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย โดยรัฐบาลได้พยายามเพิ่มมาตรการเพื่อควบคุมสถานที่ให้สอดคล้องกับความจุของสถานที่ต่าง ๆ ในร่างกฎหมายฉบับนี้
อย่างไรก็ตาม นักการเมืองฝ่ายอนุรักษนิยมได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับภาระด้านค่าใช้จ่ายและการบริหารจัดการสถานที่ต่าง ๆ ที่ชุมชนต้องแบกรับ โดยเฉพาะสถานที่ซึ่งดำเนินการโดยอาสาสมัคร
โดย Lord Davies นักการเมืองฝ่ายอนุรักษนิยมกล่าวว่า ประสิทธิผลของกฎหมายนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับข้อความบนหน้ากระดาษเพียงอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับว่ามีการนำไปบังคับใช้ได้จริงมากน้อยเพียงใด อีกทั้งต้องมีการส่งเสริมการบังคับใช้กฎหมายให้เกิดประสิทธิผลด้วยการจัดหาทรัพยากร การฝึกอบรม และการให้คำแนะนำที่เหมาะสมเพื่อให้เกิดการปฏิบัติตามได้อย่างแท้จริง อย่างไรก็ตาม ร่างกฎหมายฉบับนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในความพยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อปกป้องประชาชนจากการก่อการร้าย
ข่าวประจำวันที่ ๑๙ มีนาคม ๒๕๖๘
แปลและเรียบเรียงจาก https://www.bbc.com/news/articles/c789v32r4pyo
*บทความในเว็บไซต์เป็นผลงานทางวิชาการของผู้เขียนเว็บไซต์ LawforASEAN / สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องด้วย
ซึ่งในการพิจารณาร่างกฎหมายในวาระที่ ๓ เมื่อวันอังคารที่ ๑๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๘ Lord Hanson สมาชิกรัฐสภาพรรคแรงงานของอังกฤษ กล่าวต่อรัฐสภาว่า ร่างกฎหมายควบคุมการก่อการร้ายและการคุ้มครองสถานที่ต่าง ๆ (Terrorism (Protection of Premises) Bill) จะช่วยปกป้องชีวิตของผู้คนได้ ในขณะที่กฎหมายผ่านการเห็นชอบจากสภาขุนนาง และจะส่งกลับไปยังรัฐสภาเพื่อให้สมาชิกรัฐสภาพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมต่อไป
นอกจากนี้ Lord Hanson กล่าวว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้เป็นการระลึกถึงผู้เป็นเหยื่อจากเหตุสลดเหล่านั้น รวมถึงเหยื่อจากเหตุการณ์การก่อการร้ายอื่น ๆ และพวกเขาจะไม่มีวันถูกลืม และเขากล่าวเสริมว่า หากไม่มีการรณรงค์ของ Figen Murray และทีมงานของเธอ คงไม่อาจมีการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างในวันนี้ได้
โดยการเปลี่ยนแปลงทางกฎหมายนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ Figen Murray ได้ทำการรณรงค์ หลังจากเหตุการณ์เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ ที่ลูกชายของเขา Martyn Hett ตกเป็นหนึ่งในเหยื่อผู้เสียชีวิต ๒๒ รายจากเหตุระเบิดในคอนเสิร์ตของนักร้องดัง Ariana Grande
ภายใต้กฎหมายฉบับนี้หรือที่เรียกอีกชื่อว่า Martyn's Law เจ้าหน้าที่ของสถานที่จัดงานในสหราชอาณาจักรที่มีความจุมากกว่า ๒๐๐ คนทุกแห่ง จะต้องได้รับการฝึกอบรมการอพยพ และในสถานที่จัดงานที่จุคนได้มากกว่า ๘๐๐ คนจะต้องมีการใช้มาตรการอื่นเพิ่มเติม เช่น การติดตั้งกล้องวงจรปิด หรือจัดหาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย โดยรัฐบาลได้พยายามเพิ่มมาตรการเพื่อควบคุมสถานที่ให้สอดคล้องกับความจุของสถานที่ต่าง ๆ ในร่างกฎหมายฉบับนี้
อย่างไรก็ตาม นักการเมืองฝ่ายอนุรักษนิยมได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับภาระด้านค่าใช้จ่ายและการบริหารจัดการสถานที่ต่าง ๆ ที่ชุมชนต้องแบกรับ โดยเฉพาะสถานที่ซึ่งดำเนินการโดยอาสาสมัคร
โดย Lord Davies นักการเมืองฝ่ายอนุรักษนิยมกล่าวว่า ประสิทธิผลของกฎหมายนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับข้อความบนหน้ากระดาษเพียงอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับว่ามีการนำไปบังคับใช้ได้จริงมากน้อยเพียงใด อีกทั้งต้องมีการส่งเสริมการบังคับใช้กฎหมายให้เกิดประสิทธิผลด้วยการจัดหาทรัพยากร การฝึกอบรม และการให้คำแนะนำที่เหมาะสมเพื่อให้เกิดการปฏิบัติตามได้อย่างแท้จริง อย่างไรก็ตาม ร่างกฎหมายฉบับนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในความพยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อปกป้องประชาชนจากการก่อการร้าย
ข่าวประจำวันที่ ๑๙ มีนาคม ๒๕๖๘
แปลและเรียบเรียงจาก https://www.bbc.com/news/articles/c789v32r4pyo
*บทความในเว็บไซต์เป็นผลงานทางวิชาการของผู้เขียนเว็บไซต์ LawforASEAN / สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องด้วย
หน้าแรก
|
เกี่ยวกับเรา
|
แนะนำอาเซียน
|
ข่าวต่างประเทศ
|
ความตกลง
|
บทความ
|
งานวิจัย
|
กฎหมายน่ารู้
|
ติดต่อเรา
|
แผนผังเว็บไซต์
|
© 2025 Office of the Council of State.