[TH] เขตปกครองตนเอง Isle of Man ของอังกฤษเตรียมแก้ไขกฎหมายการบริจาคอวัยวะ เพื่อให้ประชาชนแทบทุกคนถือเป็นผู้บริจาคอวัยวะ
ข่าวต่างประเทศ
30 Apr 2025
เขตปกครองตนเอง Isle of Man ของอังกฤษมีการรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับกฎหมายการบริจาคอวัยวะร่างกายที่จะมีการปรับปรุงแก้ไขใหม่ เพื่อปรับปรุงข้อบังคับเกี่ยวกับการบริจาคอวัยวะที่มีอยู่ รวมถึงกระบวนการดำเนินงานตามกฎหมายที่จะมีผลต่อประชาชนที่อาจมีทั้งกลุ่มที่ยินยอมและไม่ยินยอมในการบริจาคอวัยวะร่างกาย โดยสำนักงานคณะรัฐมนตรีได้จัดทำแบบสำรวจเพื่อขอความเห็นเกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการบริจาคอวัยวะและเนื้อเยื่อของมนุษย์ (Human Tissue and Organ Donation Act) รวมถึงการจัดกิจกรรมบางอย่างภายใต้พระราชบัญญัตินี้
พระราชบัญญัติการบริจาคอวัยวะและเนื้อเยื่อของมนุษย์ (Human Tissue and Organ Donation Act) ได้รับพระบรมราชานุญาตให้บังคับใช้เมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ ที่ผ่านมาและขณะนี้กำลังทำการรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับกฎหมายลำดับรองเพิ่มเติมที่จำเป็นต้องมี
เพื่อให้การบังคับใช้พระราชบัญญัตินี้เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ กฎหมายดังกล่าวถูกเรียกอีกชื่อว่า Daniel's Law เพื่อเป็นการรำลึกถึง Daniel Boyde ซึ่งอวัยวะของเขาได้ถูกบริจาคหลังจากเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ในปี พ.ศ. ๒๕๕๐ ในขณะที่เขามีอายุเพียง ๑๕ ปี
รัฐมนตรีสำนักงานคณะรัฐมนตรี David Ashford กล่าวว่าการเปลี่ยนไปใช้ระบบ Opt-outสำหรับการบริจาคอวัยวะ จะเป็นกลไกที่สำคัญเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ของกฎหมายและสอดคล้องกับเขตอำนาจศาลอื่น ๆ และจะทำให้การบริจาคอวัยวะเป็นไปอย่างถูกต้อง โปร่งใส ภายใต้มาตรฐานทางจริยธรรม และความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อระบบการจัดการของรัฐ
นอกจากนี้ เขากล่าวว่า แม้ประเด็นเรื่องความตายจะเป็นหัวข้อที่สร้างความลำบากใจในการพูดถึง แต่ก็เป็นสิ่งที่ทุกคนไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ การเปิดให้มีการรับฟังความคิดเห็นในประเด็นนี้จึงมีความสำคัญ เพราะจะช่วยหามาตรการคุ้มครองและทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคนที่เรารัก ทางภาครัฐจึงต้องการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้แน่ใจว่าผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจะตรงตามความต้องการและความคาดหวังของชุมชน
โดยการเปลี่ยนไปใช้ระบบ Opt-out ในการบริจาคอวัยวะผลคือ หากผู้ที่อายุกว่า ๑๘ ปีที่ไม่แสดงความประสงค์ไม่บริจาคอวัยวะถือว่าพวกเขายินยอมที่จะบริจาคอวัยวะ (คำอธิบายเพิ่มเติม: จะมีการกำหนดตัวเลือกเริ่มต้นหรือ Default Option เป็นการยินยอมให้บริจาคอวัยวะ ซึ่งหมายความว่า ผู้มีอายุกว่า ๑๘ ปีทุกคนที่เสียชีวิตแล้ว อวัยวะของบุคคลเหล่านี้จะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ได้โดยไม่ต้องขออนุญาตแต่อย่างใด เว้นแต่ผู้ตายจะเคยเลือกเอาตัวเองออกจากระบบ หรือ Opt-out ไว้ก่อนเสียชีวิต) แต่ทั้งนี้ จะมีการปรึกษาหารือกับครอบครัวผู้เสียชีวิตก่อน
การเปิดรับฟังความคิดเห็นนี้ ประชาชนได้รับเชิญให้เข้าไปให้ข้อมูลความคิดเห็น ที่งานประชุมเพื่อรับฟังความเห็นสาธารณะที่เมือง Douglas Ramsey Castletown และ Peel ในช่วงเดือนเมษายน พ.ศ. ๒๕๖๘ โดยการปรึกษาหารือดังกล่าวจะให้โอกาสผู้ตอบแบบสำรวจได้ตรวจสอบและพิจารณาถึงแนวปฏิบัติอย่างละเอียด ๘ ฉบับ ซึ่งจัดทำโดยหน่วยงานสาธารณสุข โดยครอบคลุมหัวข้อต่าง ๆ เช่น การบริจาคอวัยวะจากผู้มีชีวิตและผู้เสียชีวิต และหลักเกณฑ์การให้ความยินยอม
แบบสำรวจนั้นจะถามความคิดเห็นว่ากระบวนการขอความยินยอมมีความชัดเจนหรือไม่ และเป็นการเคารพต่อความประสงค์ของบุคคลอันเนื่องมาจากความเชื่อทางศาสนาหรือภูมิหลังที่หลากหลายหรือไม่ นอกจากนี้ ยังมีเรื่องวิธีการเก็บรักษา การกำจัดเนื้อเยื่อและอวัยวะหลังการชันสูตรพลิกศพ และวิธีที่ครอบครัวจะได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับการบริจาคอวัยวะที่มีความชัดเจนและรวดเร็ว
การจัดงานรับฟังความคิดเห็นแบบไม่ต้องลงทะเบียนล่วงหน้าในแต่ละพื้นที่ จะเริ่มในเวลา 16.00 นาฬิกาและ 18.00 นาฬิกาตามเวลา British Summer Time (BST) โดยงานแรกจะจัดขึ้นที่โบสถ์ Loch Promenade ในเมือง Douglas ในวันที่ ๗ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๘ ต่อมาที่หอประชุม Ramsey Town Hall ในเมือง Ramsey ในวันที่ ๘ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๘ ตามด้วยที่หอประชุม Morton Hall ที่เมือง Castletown ในวันที่ ๑๕ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๘ และรอบสุดท้ายจัดขึ้นที่ศูนย์สุขภาพ Western Wellbeing Centre ที่เมือง Peel ในวันที่ ๒๔ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๘
นอกจากนี้ ประชาชนยังสามารถตอบความคิดเห็นในแบบสำรวจออนไลน์ได้ถึงวันที่ ๒๘ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๘ โดยความคิดเห็นจากสาธารณชนจะถูกนำมาใช้เพื่อพิจารณายกร่างกฎหมายก่อนเสนอต่อรัฐสภา Tynwald ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๘
ข่าวประจำวันที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๖๘
แปลและเรียบเรียงจาก https://www.bbc.com/news/articles/c74n8l33785o
*บทความในเว็บไซต์เป็นผลงานทางวิชาการของผู้เขียนเว็บไซต์ LawforASEAN / สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องด้วย